Nice To Fit

Ego คืออะไร Ego ในระดับที่พอดีเป็นสิ่งจำเป็น แต่การสำคัญตนมากเกินไปก็ไม่ดี

ศัตรูของเราไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น Ego ที่อยู่ในตัวเรานี่เอง การมี Ego ในระดับที่พอดี ด้านดีของมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในชีวิต มันจะช่วยให้เราแข่งขัน ทำให้คนอื่นรู้ถึงศักยภาพของเราที่หลุดจากกรอบความสำเร็จในอดีต แต่บางครั้ง หลังจากที่เราประสบความสำเร็จ Ego มันมักจะเข้าครอบงำ ทำให้เรามองตัวเองสูงกว่าคนอื่น ทำให้เรากลายเป็นคนที่มั่นใจเกินเหตุและสุดท้ายกลายเป็นผลเสีย ดังนั้นการจัดการ Ego จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

Ego คือ

ทุกคนที่มีไฟมีความใฝ่ฝัน ต่างก็มีความทะเยอทะยานกันทุกคน คนที่ไต่เต้าขึ้นไปสู่ฐานะหรือตำแหน่งที่สูงขึ้นไป นักดนตรี นักกีฬา นักวิทยาศาสตร์ เจ้าของกิจการ คนเหล่านี้สร้างคุณค่าและค้นพบวิธีการที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ความทะเยอทะยานเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นตัวขับดันทำให้มันเกิดขึ้นได้ แต่การมองว่าตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของทุกสิ่ง Ego จะเป็นตัวขัดขวางไม่ให้เราทำงานได้สำเร็จ

Ego คือความอยากได้อยากดังโดยที่ไม่ต้องลงมือทำ ความสำเร็จจะทำให้คนอื่นๆ ยกย่องและยอมรับในตัวเรา แต่หลายๆ คนกลับอยากได้มันมาโดยที่ยังทำไม่สำเร็จ

ความทะเยอทะยานต่างจาก Ego เพราะมันอยู่บนพื้นฐานของความสำเร็จ

คนที่มี Ego มักจะคิดว่าตัวเองถูกเสมอ มั่นใจและเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ดื้อไม่ฟังใคร หรือฟังแต่ไม่ทำตาม การที่เราจะประสบผลสำเร็จ เราต้องดึงด้านดีของ Ego มาใช้ คือต้องมีทั้งความเชื่อ ความมั่นใจในตัวเอง แต่ก็อย่าสำคัญตัวมากเกินไป

ฝึกระงับอารมณ์

อารมณ์โกรธ การไม่ได้รับความยุติธรรม และการหลงตัวเอง สิ่งเหล่านี้จะบดบังครอบงำความคิดเรา เราไม่ได้เป็นคนพิเศษเพราะจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ หรือมีพ่อแม่ร่ำรวยอิทธิพล เราอาจจะไม่ชอบใจเวลาที่หัวหน้าพูดจารุนแรงกับเรา หรือเวลาที่เพื่อนร่วมงานทำให้เราหงุดหงิด แต่การตอบโต้โดยสำคัญตัวเอง ว่าเราควรได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรมมากกว่านี้ มันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมา พฤติกรรมแบบนั้นมันเกิดจาก Ego การที่เราระงับอารมณ์ได้จะช่วยให้มุ่งมั่นอยู่กับงานและเรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

มองในระยะยาว

ลดความสำคัญของความพึงพอใจหรือความไม่พอใจในระยะสั้น ให้คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันจะทำให้เราเติบโต มันจะช่วยให้เราพัฒนาตนเองได้ในระยะยาว เราควรตระหนักไว้ว่า

ความสำเร็จของเรามักจะเกิดจากการที่หลายๆ คนช่วยกัน เราต้องทำให้งานของคนอื่นๆ ง่ายขึ้น ช่วงแรกๆ การยอมรับทำตามคำสั่งมันอาจจะขัดกับ Ego ของเรา แต่จงระงับมันไว้แล้วหาไอเดียแลกเปลี่ยนกับหัวหน้า ดึงคนที่จะเข้ามาช่วยงานเราได้ และทำงานที่คนอื่นๆ พยายามหลีกเลี่ยง

เรียนรู้อยู่เสมอ

การหลงทะนงตนเป็นเรื่องอันตราย เพราะมันจะขัดขวางไม่ให้เราเรียนรู้ เช็คระดับ Ego ของเราอยู่เสมอ เพราะมีสิ่งที่เราต้องเรียนรู้อีกเยอะ ความสำเร็จไม่ได้ทำให้เรากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ในทันที แต่จงเรียนจากคนที่รู้เยอะกว่าเรา เรียนจากการสอนคนที่รู้น้อยกว่าเรา และเรียนจากการแข่งขันกับคนที่รู้เท่าเทียมเรา หรือจากการทำงานร่วมกัน

การที่เราคิดว่าต้องดีกว่า ต้องเก่งกว่า ต้องเอาชนะใครก็ตาม ความคิดแบบนั้นแหล่ะคือ Ego

การสร้างนิสัยการเรียนรู้อยู่เสมอจะช่วยให้การเริ่มต้นชีวิตการทำงานง่ายขึ้น ความสำเร็จมันมักจะลวงให้เรามั่นใจในสิ่งที่เรารู้ เราควรตระหนักไว้เสมอว่า ยิ่งเรารู้มากเท่าไหร่ เราก็จะรู้ว่ามีอีกเยอะเลยที่เรายังไม่รู้ และมันก็เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องรู้

ความภูมิใจในตัวเองจะทำให้เราหยุดนิ่ง หยุดพัฒนาตัวเอง รวมถึงงานที่เราทำ ความภูมิใจในตัวเองต่างจาก Ego เพราะเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการความสำเร็จ เราจะรู้สึกเป็นคนพิเศษ บางครั้งจะทำให้เราหลงลืมไปว่าตัวเรายังพัฒนาต่อได้มากกว่านี้อีก เราสามารถไปได้ไกลกว่านี้

นอกจากนั้น ความภูมิใจในตัวเองยังทำให้เราอ่อนไหวเวลามีคนตำหนิหรือเปรียบเทียบเรา ถ้ามีคนมาบอกว่าเราเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง Ego ในตัวเราจะพยายามปกป้องเราจากคำพูดนั้น หรืออาจจะสวนกลับไป

ถึงแม้ว่าเราจะเก่งแค่ไหน ก็ยังมีคนที่เก่งกว่าเราเสมอ

สิ่งเดียวที่จะแก้ไขได้คือ การยอมรับและถ่อมตนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อะไรก็ตาม

สร้างและรักษามาตรฐาน

คนที่จะประสบผลสำเร็จได้เรื่อยๆ จะต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่จำเป็นต้องทำ ทำในเวลาที่เหมาะสม และให้ได้ผลลัพธ์อย่างที่มันควรจะเป็น ต้องทำงานทุกอย่างให้ได้ตามมาตรฐาน หลังจากงานสำเร็จก็ต้องรักษามาตรฐานนั้นไว้หรือปรับปรุงทำให้มันดียิ่งขึ้น อย่ามั่นใจมากเกินไปและอย่ายึดติดอยู่กับความสำเร็จเดิมๆ

ยอมรับความผิดพลาด

ไอเดียที่เจ๋งที่สุดของเราอาจจะไม่ถูกใจคนอื่น ตอนไปสมัครงานความสามารถและคุณสมบัติของเราอาจจะไม่ตรงกับที่บริษัทต้องการ Ego ในตัวเราทำให้เราคิดว่าไอเดียของเราควรจะได้รับการยอมรับ ตัวเรามีความสามารถพอ แต่โลกนี้มันไม่ได้เป็นไปตามที่เราคิดเสมอ

ความผิดพลาดเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะว่าเราต้องเสี่ยง ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความผิดพลาด แต่เราต้องวิเคราะห์มันและหาทางแก้ไข เราต้องแยกให้ออกว่าตัวเราไม่ใช่ความผิดพลาดที่เราทำ แต่ Ego จะทำให้เรามองว่าตัวเราคือความผิดพลาดและจะทำให้เรามองเห็นแค่ความสำเร็จและความล้มเหลว

ถึงเราจะทำเต็มที่ทำดีที่สุด แต่มันก็ไม่ได้รับประกันว่าเราจะประสบผลสำเร็จ หาให้เจอว่าทำไม ต่อไปจะได้แก้ไขให้ดีขึ้น

เชื่อใจและใช้คนให้เป็น

ความสามารถที่เรามีมันนำพาเราไปอยู่ในจุดที่ต้องเป็นหัวหน้าคน ทำให้คนอื่นยกย่องและยอมรับในตัวเรา บางครั้งเราอาจจะไม่ไว้ใจให้คนอื่นๆ ทำงานใหญ่ งานที่สำคัญ Ego ในตัวเราจะทำให้เรารู้สึกว่าคนอื่นๆ จะทำงานได้ไม่ดีเท่าเรา

เราต้องหัดเชื่อใจคนอื่น ใช้คนให้เป็น เอางานให้คนอื่นทำ แล้วทุกคนจะได้รับประโยชน์

สรุป

การมี Ego ในระดับที่พอดีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความสำเร็จ แต่การสำคัญตนมากเกินไปจะไม่ดีต่ออาชีพการงาน เราต้องฝึกระงับและควบคุมอารมณ์ หมั่นช่วยเหลืองานคนอื่นและเรียนรู้อยู่เสมอ

การถ่อมตัวมันมีแต่ประโยชน์ ไม่มีใครอยู่อย่างโดดเดี่ยว ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมันมีส่วนมาจากคนอื่นๆ ด้วย ดังนั้นแทนที่จะเห็นแก่ตัว เชิดชูตัวเอง ก็ให้ลองแชร์ความสำเร็จนั้นกับเพื่อนร่วมงาน

References

Ego is the Enemy

Ryan Holiday

Ego คืออะไร Ego ในระดับที่พอดีเป็นสิ่งจำเป็น แต่การสำคัญตนมากเกินไปก็ไม่ดี September 9th, 2019jack
Exit mobile version