
ถือเป็นความโชคดีของเราที่มีโอกาสได้ทำงานน้อยลง เราทำงาน 4 วัน และหยุดพักผ่อน 3 วัน เราตั้งใจไว้ว่า เราจะใช้เวลา 4 วันทำงานให้เต็มที่ การที่เรามีเวลาทำงานน้อยลง มันจะทำให้เราเห็นคุณค่าของเวลามากขึ้น ทำให้เราใส่ใจในรายละเอียดของงานมากขึ้น ไม่เสียสมาธิไปกับสิ่งรบกวน สิ่งยั่วยวนทั้งหลาย
เราเชื่อว่ามันมีทางที่จะทำให้เราได้งานเท่าเดิมโดยที่เราใช้เวลาน้อยลง ถ้าเรารู้จักบริหารพลังงานในตัวเราให้ดี
การเขียนบันทึกประจำวันก็มีส่วนช่วยให้เรารู้ตัวมากขึ้น ว่าในแต่ละวันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สิ่งที่มันกระทบกับอารมณ์ของเรา เราตอบสนองกับมันยังไง เราเก็บมาคิดและสะท้อน แล้วค่อยหาทางปรับปรุงแก้ไขต่อไป
บันทึกประจำวัน
พักระหว่างงานเพื่อฟื้นฟูพลัง
การทำงานหนัก ทำงานตลอดเวลา การทำตัวให้ยุ่งอยู่ตลอดเวลา การทำแบบนี้ไม่ได้หมายความว่ามันจะทำให้เราได้งานที่ดี หรือทำให้เราทำงานเสร็จ การรีบเร่งจนเกินไป ก็อาจจะทำให้ไปถึงเป้าหมายได้ช้าลง หรืออาจจะไปถึงเป้าหมาย แต่เป็นเป้าหมายที่เราไม่ได้ตั้งใจไว้
ดังนั้นเราจึงควรมีเวลาสำหรับการหยุดคิด เพื่อให้เราได้สำรวจ ว่าสิ่งที่เรากำลังทำ กลยุทธ์ที่เราใช้ ทางที่เรากำลังเดินไป มันใช่ทางที่จะนำเราไปสู่เป้าหมายที่ถูกต้องหรือเปล่า
การรู้จังหวะเวลา การทำงานสลับกับการพัก เป็นสิ่งที่จำเป็น เราต้องใช้พลังไปกับการทำงาน การพักทำให้เราฟื้นฟูพลังให้กลับคืนมา และต้องเป็นการพักที่เราได้พักจากงานจริงๆ ไม่ใช่พักแต่ก็ยังคุยเรื่องงาน
หลีกเลี่ยงอารมณ์เชิงลบ
ในหนึ่งวันอารมณ์ของเราจะเปลี่ยนแปลงไป เราอาจจะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยอารมณ์เชิงบวก อารมณ์ดีในตอนเริ่มต้นทำงาน แต่หลังจากนั้นหลายสิ่งที่เข้ามามันจะทำให้อารมณ์เปลี่ยนไป ทำให้อารมณ์เราเปลี่ยนเป็นลบ อารมณ์ไม่ดี
ความเครียดจะทำให้เราเปลี่ยนอารมณ์เป็นเชิงลบ ความเครียดในตอนที่เรายังมีพลังงานมาก มันจะทำให้เราทำงานได้เร็ว แน่นอนว่าเราก็จะสูญเสียพลังเร็วเช่นกัน
ถ้าเราไม่หยุด ไม่พักเพื่อฟื้นฟูพลัง เราก็จะเหลือพลังน้อย และถ้าในขณะนั้นอารมณ์ของเรายังค้างอยู่ที่เชิงลบ งานก็ยังทำไม่เสร็จ มันก็จะทำให้เราเหนื่อย ท้อแท้ สิ้นหวังได้ง่ายๆ และสภาวะนี้มันจะส่งผลร้ายต่อร่างกายของเรา
ไม่ว่ายังไงก็ตาม เราต้องพยายามรักษาอารมณ์ของเราให้อยู่ในเชิงบวก เส้นตายหรือวันกำหนดส่งงานที่ใกล้เข้ามามันจะทำให้เราเครียด และทำให้เราเร่งทำงานให้เสร็จ ความกระตือรือร้นเป็นสิ่งที่ดี แต่เราควรเปลี่ยนอารมณ์เชิงลบให้เป็นบวกให้ได้ เครียดได้แต่ก็ต้องเชื่อว่าเราจะทำงานได้สำเร็จ พยายามรักษาอารมณ์ให้เป็นบวกเอาไว้
ถ้าเรารู้ตัวว่าพลังงานเราเหลือน้อย เราก็ควรหยุดพักเพื่อฟื้นฟูพลังงาน หยุดและพักในขณะที่อารมณ์ของเรายังคงเป็นบวก มันจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายในขณะที่เราฟื้นฟูพลัง การที่เรามีจิตใจสงบ มันจะทำให้เราฟื้นพลังกลับมาได้เร็วขึ้น
ทำงานสำคัญให้เสร็จก่อน
เราต้องดูให้ดีๆ ว่างานเร่ง งานที่จะเอาเดี๋ยวนี้ มันรอได้หรือเปล่า งานที่เร่งด่วนแต่มันไม่มีความสำคัญ งานเล็กๆ น้อยๆ ที่มันไม่มีผลกระทบกับเราในระยะยาว เราก็ควรพักไว้ก่อน เราควรจะทำงานที่สำคัญให้เสร็จก่อน