
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วแม่มดได้เสกเจ้าชายให้กลายเป็นกบ และวิธีเดียวที่จะถอนคำสาปร้ายได้คือต้องมีเจ้าหญิงมาจูบกบ เจ้าชายกบอาศัยอยู่ที่แหล่งนํ้าบริเวณนั้น วันหนึ่งมีเจ้าหญิงผ่านมานั่งอยู่ริมน้ำและนึกถึงเจ้าชายในฝัน จากนั้นกบก็กระโดดเข้าหาและบอกกับเจ้าหญิงว่า ถ้าเจ้าหญิงจูบมัน มันจะกลายร่างเป็นเจ้าชายและจะแต่งงานกับเธอ เจ้าหญิงรับข้อเสนอของกบหน้าตาอัปลักษณ์นั้น เธอก้มลงจูบมันและมองเห็นกบกลายร่างเป็นเจ้าชายรูปงาม เธอกับเจ้าชายแต่งงานกันและใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข
ในหนังสือ Kiss That Frog : จูบกบตัวนั้นซะ ผู้เขียนเปรียบเทียบกบหน้าตาอัปลักษณ์ เป็นตัวแทนของคนที่คิดแง่ลบ สถานการณ์อันเลวร้าย อดีตที่เจ็บปวด ปัญหาที่ต้องเจอ ความสงสัยลังเล ความไม่มั่นใจในตนเอง
แง่คิดที่ได้จากการอ่านหนังสือเล่มนี้คือ ความคิดแง่ลบเป็นตัวการที่ขัดขวางไม่ให้เรามีความสุข ขัดขวางไม่ให้เราลงมือทำสิ่งที่จะทำให้เรารู้สึกยินดี และสิ่งที่เราต้องทำคือ การรู้ตัว ทำความรู้จัก ยอมรับมัน เรียนรู้จากมัน กำจัดมันออกไปแล้วทดแทนด้วยการคิดบวก ในหนังสือได้แนะนำวิธีการไว้ถึง 12 วิธีด้วยกัน
ความจริง 7 อย่างเกี่ยวกับตัวเรา
เราแต่ละคนมีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับใช้ชีวิตอย่างที่เราคาดฝันไว้ ดึงพลังแฝงที่มีอยู่ในตัวออกมาใช้ ใช้มันให้เต็มศักยภาพ
- เรามีคุณค่ามากมาย อย่ามัวแต่สงสัยลังเลในตัวเอง เพราะมันจะทำให้เกิดความผิดหวัง
- เราเป็นคนสำคัญ อย่าคิดว่าเราไม่คู่ควร เพราะมันจะทำให้รู้สึกเสียใจโดยที่ไม่จำเป็น
- เรามีศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด เชื่อในความสามารถของตัวเอง เชื่อว่าเราสามารถมีชีวิตในแบบที่ต้องการได้
- เราสร้างโลกของเราได้เอง หากเชื่อเช่นนั้น มันก็จะกลายเป็นเรื่องจริง
- เรามีอิสระที่จะเลือก เลือกที่จะคิดและตัดสินใจ เลือกเก็บเฉพาะสิ่งที่มีค่า และทิ้งสิ่งที่ไม่ดีไป
- เรามีชะตาลิขิตที่ยิ่งใหญ่ เชื่อว่าเกิดมาเพื่อประสบความสำเร็จ เกิดมาเพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่
- เรามีพลังงานไร้ขีดจำกัด สิ่งที่มันจะขัดขวางเราได้คือความกลัวและลังเลเท่านั้น
หวังสูงและไกลเกินเอื้อม
ไม่มีอะไรเสียหายในการตั้งความหวังให้สูงเกินฝันและไกลเกินเอื้อม
บางคนมีเป้าหมายไว้เพื่อทำตามเป้าให้สำเร็จ แต่บางคนใช้เป้าหมายเป็นเครื่องมือในการพัฒนาตนเอง เป็นตัวชี้วัดว่าวิธีการที่ใช้มันได้ผลดีหรือเปล่า การบรรลุเป้าหมายเป็นเพียง Happy side effect เป็นเพียงผลพลอยได้ของความพยายาม ในขณะที่ผลลัพธ์ที่แท้จริงคือการเรียนรู้และการที่เราทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสะสมอย่างต่อเนื่อง เวลาผ่านไปเมื่อย้อนกลับมาทบทวน ก็จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน
ถ้าเรายึดติดหรือหมกมุ่นอยู่กับการทำให้ได้ตามเป้าหมาย มันอาจช่วยให้เราได้รับรางวัลเป็นความรู้สึกดีที่ทำได้ แต่ก็ต้องระวังกับดัก อย่าปล่อยให้ตัวเองรู้สึกแย่ในวันที่ล้มเหลว
หวังสูงเข้าไว้ จินตนาการถึงเจ้าหญิงหรือเจ้าชายในฝันพร้อมกับไม้กายสิทธิ์ที่จะร่ายเวทย์
- เสกงานในฝันให้กับเรา
- กำจัดโรคภัยในวันที่ป่วย
- เสกเงินทองให้ใช้ไม่มีวันหมด
- ให้มีอนาคตที่สมบูรณ์แบบ
- ให้ทุกวันเป็นวันที่ดีที่สุด
ถึงมันจะเป็นเพียงแค่ความคิด แต่อนาคตของเราจะไม่เปลี่ยน หากเราไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ยอมรับความจริงและจัดการกับมัน
ทุกคนต่างก็มีกบหน้าตาอัปลักษณ์ให้จูบ กบตัวนั้นอาจเป็นอารมณ์เชิงลบ อาจเป็นความรู้สึกแย่ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต อาจเป็นสิ่งที่บั่นทอนความเชื่อมั่นในตนเอง ที่ทำให้กังวลต่อเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิด
วิธีที่จะช่วยได้คือเผชิญหน้ากับมันตรงๆ อย่าให้กบควบคุมหรือมีอำนาจเหนือเรา ยอมรับว่ามันคือความจริงแล้วทิ้งมันไป
- ยอมรับความจริง ว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใครได้
- เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ความเครียดจะลดลงเมื่อเราเริ่มจัดการกับมัน
- แยกปัญหาออกจากความจริง ยอมรับความจริงแล้วแก้ไขปัญหา
- อย่ายึดติดกับอดีต ปล่อยวางแล้วเดินหน้าต่อไป
- กำจัดความกังวล นึกถึงสิ่งที่แย่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นได้ ยอมรับว่ามันจะเกิดขึ้น แล้วหาทางรับมือหรือหลีกเลี่ยง
กำจัดความคิดแง่ลบออกไปจากใจ
อุปสรรคที่ขัดขวางไม่ให้เรารู้สึกยินดีคือความคิดในแง่ลบ เหล่ากบหน้าตาอัปลักษณ์ที่อาศัยอยู่ในสระแห่งจิตใจ ความคิดแง่ลบก่อให้เกิดความสับสนและสิ้นหวัง กำจัดมันออกไปแล้วแทนที่ด้วยความคิดแง่บวกที่จะทำให้รู้สึกยินดี
วิธีที่จะกำจัดความคิดแง่ลบออกไปได้
- อย่าสิ้นหวัง ทุกข์ที่เกิดขึ้นก็เหมือนกับเมฆบังแสงอาทิตย์ ในความมืดก็ยังมีแสงที่ขอบเมฆเผยให้เห็นโอกาสในวันใหม่
- เข้าควบคุมยึดอำนาจกลับคืนมา หากควบคุมความคิดได้ ก็จะควบคุมสถานการณ์ได้
- ความคิด อารมณ์ พฤติกรรม ไม่ต้องใส่ใจว่าอะไรที่เกิดก่อนกัน แต่หากกำจัดความคิดไม่มีประโยชน์ออกไปได้ ก็จะตัดวงจรที่บั่นทอนตัวเองได้
- คิดก่อนตอบสนอง สร้างช่องว่างระหว่างแรงกระตุ้นและการตอบสนอง แทนที่มันด้วยความคิดที่รอบคอบก่อนตัดสินใจลงมือทำ
- เราคิดลบได้ทีละอย่าง รู้ตัวและสงสัย พยายามเข้าใจแล้วค่อยๆ แทนที่มันด้วยการคิดบวก
มันไม่ง่ายเลยที่จะสกัดกั้นไม่ให้เกิดอารมณ์ เพราะมันคือธรรมชาติของมนุษย์ สิ่งที่เราทำได้คือการรู้ตัวและไม่ปล่อยให้มันเลยเถิด มันไม่ง่ายเลยที่จะหยุดคิด สิ่งที่เราทำได้คือการปล่อยให้ใจคิดแต่อย่าไปยึดติดกับมัน
กำจัดพฤติกรรมที่ทำให้คิดลบ
ความรู้สึกกลัวจะทำให้ลังเลไม่กล้าตัดสินใจ อารมณ์แง่ลบจะบดบังความคิดแบบเหตุผล ความกังวลและลังเลมีผลต่อการตัดสินใจ พฤติกรรมเหล่านี้มักจะลากเราไปตกอยู่ในอารมณ์แง่ลบ
- คนที่ชอบแก้ต่าง ข้อกล่าวหาที่ไม่ได้ทำหรือไม่ได้เป็น มักจะนำไปสู่อารมณ์โกรธแค้น
- คนที่มองทุกอย่างเป็นเรื่องส่วนตัว เอาตัวเองไปเกี่ยวกับเรื่องร้ายๆ ได้เสมอ
- คนที่อารมณ์อ่อนไหวมากเกินไป จะทำให้เรื่องธรรมดากลายเป็นแย่สุดๆ ได้
- คนที่ชอบตัดสินคนอื่น คนที่บรรเทาความโกรธของตน โดยการทำให้คนอื่นรู้สึกแย่
- คนที่หาข้ออ้างหาเหตุผลแก้ตัว เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในสังคม
อารมณ์ในแง่ลบจะทำให้เอนเอียงเกิดการตัดสินใจที่ไม่แฟร์ และมันจะแย่มากหากผลลัพธ์นั้นวัดกันที่ความคิดวิเคราะห์ด้วยเหตุผล
หากกำจัดพฤติพรรมเหล่านี้ออกไปได้ ก็จะทำให้ลดการกล่าวหาคนอื่น ลดความโกรธแค้นลง รู้จักรับผิดชอบต่อสถานการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้น หยุดเติมความคิดแง่ลบแล้วควบคุมอารมณ์ของตนเองให้ได้
คนที่มีประสิทธิภาพ คือคนที่ควบคุมตัวเอง มีวินัย ทำใจให้สงบลงได้ ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม
บอกกับตัวเอง ย้ำกับตัวเอง ให้คิดบวก
เติมพลังใจให้สดใสด้วยความคิดบวก ไอเดียสดใหม่ ไอเดียที่ดีต่อใจ เลือกคำคมสร้างแรงบันดาลใจ คำพูดที่ทำให้เรารู้สึกดี ลองทำตามวิธีเหล่านี้ดู
- บอกกับตัวเอง ย้ำกับตัวเอง ให้คิดบวก ให้ยอมรับและรู้สึกดีกับตัวเอง
- จินตนาการสร้างภาพในหัว นึกถึงสิ่งที่ต้องการ
- ความมั่นใจสร้างได้จากการฝึกฝน เตรียมกลยุทธ์และทัศนคติที่ดี นึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้นแล้วรู้สึกยินดี
มองหาความงามจากเรื่องร้ายๆ
สิ่งร้ายๆ ที่เกิดขึ้น ที่มันอยู่เหนือการควบคุมของเรา หากเรายอมรับและเข้าใจว่าบาดแผลความเจ็บปวดมันมีหน้าที่ของมัน ไม่ว่าจะเจ็บปวดทางกายหรือทางใจ บาดแผลจะอยู่กับเรา ให้เราได้เรียนรู้ว่าชีวิตนี้มันคืออะไร ให้เราค้นหาความหมายของมัน
ใช้ความฉลาดให้เกิดประโยชน์ ใช้มันทำให้จิตใจสงบลง ใช้มันควบคุมและทำให้เกิดสันติในใจ ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม
เปลี่ยนคำที่ฟังดูแย่ให้ดูดีขึ้น เปลี่ยนจากปัญหาให้เป็นสถานการณ์ เปลี่ยนความยากลำบากให้เป็นความท้าทายหรือโอกาส
ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ
บางคนขาดความมั่นใจในตนเอง ขาดแรงกระตุ้น กลัวล้มเหลว กลัวสูญเสีย กลัวถูกปฏิเสธ กลัวการวิจารณ์ กลัวขายหน้า กลัวคนอื่นไม่ยอมรับ บางคนไม่รู้ตัวว่าตัวเองพอใจที่จะอยู่กับความกลัวเหล่านี้ สบายใจที่อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ
หัดใช้ชีวิตที่ไม่กลัวความล้มเหลว รู้สึกกลัวแต่ก็ตัดสินใจลงมือทำ
ทิ้งความรู้สึกผิดไป
เราทุกคนเกิดมาใสซื่อบริสุทธิ์ แต่พ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูงครูอาจารย์ ต่างก็มีผลต่อความคิดและพฤติกรรมของเรา บางคนบงการชีวิตเรา คอยย้ำเตือนสิ่งที่เราทำผิดพลาด บางคนแสดงความเห็นอกเห็นใจแต่แท้จริงต้องการบางอย่างจากเรา บางคนชี้นำเราไปในทางที่ผิด บางคนขัดขวางเราจากความสำเร็จ หากหลงกลบ่อยๆ อาจนำไปสู่ความรู้สึกไร้ค่า รู้สึกเป็นคนที่ไม่มีความสำคัญ ไร้ความสามารถ รู้สึกว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อของสังคม สุดท้ายทำให้กลายเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ และเอาแต่พร่ำบ่นโทษคนอื่นๆ
Guilt is a useless feeling. It’s never enough to make you change direction–only enough to make you useless.—John C. Maxwell
ความรู้สึกผิดไม่มีประโยชน์อะไรกับตัวเรา ขั้นตอนในการสลัดตัวเองให้หลุดออกจากความรู้สึกผิดมีดังนี้
- บอกตัวเองใหม่ หยุดวิจารณ์และตำหนิตัวเอง
- หยุดวิจารณ์และตำหนิคนอื่น หาคำพูดที่ทำให้เค้าคิดบวก
- รักและยอมรับคนอื่นๆ อย่าทำให้เค้ารู้สึกผิด
- อย่ายอมให้คนอื่นทำให้เรารู้สึกผิด เลิกคบแล้วยืนหยัดด้วยตัวเอง
ขอให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับคนอื่น
ตอนเด็กๆ เราจะเห็นว่าสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นเป็นลำดับขั้นตอน มีเหตุมีผล เป็นไปตามที่คิดไว้ แต่พอโตขึ้นกลับพบว่า ถึงแม้จะพยายามมากเท่าไหร่ ผลลัพธ์มันมักสวนทาง ไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังเอาไว้ และเมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ ก็มักจะทำให้เกิดความรู้สึกน้อยใจ และอิจฉาหากเห็นคนอื่นได้ดีกว่าตนเอง
ความรู้สึกน้อยใจและอิจฉาไม่ได้ช่วยอะไร มันกลับเพิ่มระยะห่างจากความสำเร็จ วิธีที่จะขจัดความรู้สึกในแง่ลบแบบนั้นคือ การขอให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับคนอื่น เหมือนอย่างที่เราคาดหวังให้มันเกิดขึ้นกับตัวเราเอง
ปล่อยวางอดีต
ปล่อยวางแล้วลืมความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นเพื่อให้เราได้ก้าวต่อไป ให้เราได้ใช้ชีวิต การให้อภัยคนที่ทำไม่ดีกับเราไม่ได้หมายความว่าไม่เป็นไร คนเหล่านั้นแทบไม่รู้ตัวว่าเราได้ให้อภัยแล้ว มีแต่เราเท่านั้นที่รู้ว่าไม่ถือโทษแล้ว
อย่าลืมขอโทษคนที่เราทำไม่ดีด้วย
เคล็ดลับ 7 อย่างของการเป็นคนคิดบวก
ใช้เคล็ดลับเหล่านี้เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเราให้กลายเป็นคนคิดบวก
- บอกกับตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง
- นึกถึงสิ่งดีๆ สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้น
- อยู่กับคนประสบความสำเร็จ คนมีความสุขและคิดบวก
- อ่านหนังสือกระตุ้นตัวเอง สร้างแรงบันดาลใจ
- การพัฒนาตนเองและเรียนรู้อยู่เสมอ
- สร้างนิสัยการดูแลสุขภาพ
- คาดหวังแต่สิ่งดีๆ คาดหวังความสำเร็จ
ขอจงคิดบวกให้เป็น
คิดบวกให้เป็น คิดบวกไม่ใช่เพียงแค่คิดไปเองว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้นได้เอง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเอง มันอยู่ที่เราว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือรอให้คนอื่นเปลี่ยนแปลงเรา อยู่ที่เราจะตัดสินใจเองหรือให้คนอื่นตัดสินใจแทน จะวางแผนหรือจะทำตามแผนการของคนอื่น อย่าสิ้นหวัง โอกาสที่พลาดไปแล้วก็ให้ปล่อยผ่านไป โอกาสใหม่ๆ มันจะลอยมาหาเรา อยู่ที่เราจะโชคดีเตรียมตัวรับมันไว้ได้หรือเปล่า