การพัฒนาตนเอง

การพัฒนาตนเอง ออกแบบและสร้างสรรค์ชีวิตที่ทำให้เราพอใจ

ไม่ว่าใครก็สามารถพัฒนาตนเองและทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ เปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ เพราะมุมมองของเราต่อคนอื่นๆ หรือความคิดของเราในตอนนี้อาจจะยังไม่ถูกต้อง สิ่งที่เราเชื่อมั่นในวันนี้ พรุ่งนี้เราอาจต่อต้านมันก็ได้ เปิดใจเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และเปิดโอกาสเพื่อมองสิ่งต่างๆ ในมุมใหม่อยู่เสมอ

โตขึ้นอยากเป็นอะไร? เป็นคำถามที่หลายคนต้องเจอ ชีวิตไม่ได้หยุดนิ่ง แต่ชีวิตคือการเติบโต คือการเปลี่ยนแปลง ชีวิตไม่ใช่จุดหมายปลายทาง ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องค้นหาว่าโตขึ้นเราจะทำอะไร เพราะมันจะไม่จบอยู่แค่นั้น ไม่มีใครรู้จริงๆ ว่าตัวเองต้องการอะไร

ไม่ว่าใครก็อยากมีชีวิตที่ดีและพึงพอใจ สำหรับคนที่รู้สึกพึงพอใจกับชีวิตที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตการทำงานหรือชีวิตส่วนตัว ก็นับได้ว่าโชคดี แต่หลายคนไม่ได้โชคดีแบบนั้น หลายคนไม่พอใจและไม่มีความสุข บางคนกังวลว่าตัวเองเลือกสายงานผิด กังวลว่าเรียนจบแล้วจะได้ทำงานไม่ตรงกับที่เรียนมา

บางคนชอบวิชาที่เรียน แต่ไม่ชอบงานที่ทำ ทำให้เกิดปัญหาทำงานไปวันๆ รอรับเงินเดือน ใช้ชีวิตที่ไม่มีความหมาย รู้สึกว่าทำงานที่ไม่มีคุณค่า งานที่ไม่ได้ส่งผลกระทบในแง่ดี ไม่ได้ทำเพื่อสังคม และหาทางออกจากกับดักนี้ไม่ได้

หลายคนติดกับดัก คิดว่าตัวเองไม่มีทางออก แต่ความจริงคือเราสามารถออกแบบหนทาง ออกแบบชีวิตของเราเองได้

ลบล้างความเชื่อเดิมๆ

หลายคนตกเป็นเหยื่อของหลุมพลางความเชื่อผิดๆ ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง การเปลี่ยนมุมมองความคิดใหม่ ทำให้เราเห็นหนทาง ทำให้เราเห็นตัวเลือกอื่นๆ ทำให้เรามองเห็นโอกาสที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน

ความเชื่อผิดๆ หรือแนวคิดที่ไม่มีประโยชน์ เช่น

  • เชื่อว่าปริญญากำหนดอาชีพ เราต้องทำงานตรงกับที่เรียนมา
  • เชื่อว่าความสำเร็จจะทำให้มีความสุขได้
  • เชื่อว่ามันสายไปแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง หรือออกแบบชีวิตใหม่
  • เชื่อว่าต้องค้นหา Passion ให้เจอ เพื่อที่จะได้ทำงานที่ชอบ
  • เชื่อว่าต้องรู้แล้วว่าชีวิตนี้จะทำอะไรต่อไป

ออกแบบชีวิต คิดแบบดีไซเนอร์

ดีไซเนอร์ชอบที่จะแก้ไขปัญหาในแต่ละวัน โดยการออกแบบและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เราสามารถใช้แนวคิดเดียวกันนี้เพื่อออกแบบและสร้างสรรค์ชีวิตของเราได้

ดีไซน์เนอร์มีเครื่องมือและฝึกฝนอยู่เสมอเพื่อทำให้งานออกมาดี เราก็จำเป็นต้องมีเครื่องมือและฝึกฝนเพื่อทำให้ชีวิตของเราออกมาดีและเป็นชีวิตที่เราต้องการ

ชีวิตที่ออกแบบอย่างดี จะทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์ มีความสุขและเติมเต็ม มีความยืดหยุ่น เปลี่ยนแปลงได้เสมอ ไม่ทำให้เรารู้สึกติดกับดัก แต่ทำให้เราเป็นอิสรภาพ อิสรภาพที่จะเลือกได้ว่าจะเติบโต อิสรภาพที่จะเลือกได้ว่าทำอะไรต่อไป ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม

สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา มันถูกออกแบบมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือรถ โต๊ะหรือเก้าอี้ที่เรานั่ง คอมพิวเตอร์ มือถือ แล้วทำไมเราจะออกแบบชีวิตของเราเองไม่ได้ ชีวิตที่ออกแบบอย่างดี จะทำให้เรารู้สึกดีกับมัน เป็นชีวิตที่ดูดี ชีวิตที่ง่ายราบรื่นมากขึ้น ชีวิตที่น่าสนใจได้สนุกมากขึ้น ชีวิตที่ทำให้เราพอใจ

ทัศนคติสำหรับการออกแบบชีวิต

ทัศนคติทั้ง 5 อย่างนี้เป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการออกแบบชีวิต ได้แก่

  • ความสงสัย
  • การลงมือทำ
  • การเปลี่ยนมุมมอง
  • รู้ว่ามันเป็นกระบวนการ
  • ความร่วมมือ

การที่เราสงสัยในทุกสิ่งจะช่วยให้เราพยายามค้นหาคำตอบ ทำให้กลายเป็นเรื่องสนุกและตื่นเต้นที่ได้ค้นพบ ความสงสัยจะช่วยให้เราโชคดี ทำให้เรามองเห็นโอกาสที่อยู่รอบๆ

ไม่ใช่แค่คิดวางแผนว่าจะทำอะไรต่อไป แต่ลงมือทำจริง ทดลองและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่ามันจะไม่สำเร็จก็ตาม บางครั้งมันจะทำให้เรามองปัญหาแตกต่างออกไป ทำให้เราเปลี่ยนมุมมองต่อปัญหาที่เรากำลังแก้ การลงมือทำจะช่วยให้เราไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น แต่ทำให้เรามุ่งมั่นคิดหาวิธีการใหม่ๆ และสนใจเฉพาะสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป

การเปลี่ยนมุมมองช่วยให้เราหลุดออกจากกับดัก ทำให้เรามั่นใจได้ว่าเรากำลังแก้ไขปัญหาที่ถูก การออกแบบชีวิตเราจะต้องรู้จักถอยห่างออกมาจากความคิดและเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ ลองใช้วิธีการใหม่ๆ

การออกแบบชีวิตเป็นเหมือนการเดินทาง บางครั้งเราอาจจะก้าวไปข้างหน้า บางครั้งเราก็อาจจะถอยหลัง เราอาจทำผิดพลาด สิ่งที่เราทำมันอาจไม่ได้ผล สิ่งสำคัญคือการยอมรับ ปล่อยวางและก้าวต่อไป สนใจเฉพาะสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ความร่วมมือ ความช่วยเหลือเป็นสิ่งสำคัญเพราะเราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว iPhone ไม่ได้ออกแบบและสร้างด้วยคนๆ เดียว ชีวิตเราก็เช่นเดียวกัน มันยากที่จะออกแบบชีวิตตามลำพัง สิ่งที่เราต้องทำคือการขอความช่วยเหลือ

ไม่ต้องค้นหา Passion

บางคนเชื่อว่าถ้าหา Passion เจอแล้วทุกอย่างมันก็จะลงตัว แต่ความจริงก็คือมีหลายคนที่หา Passion ไม่เจอ ไม่รู้ว่าตัวเองชอบทำอะไร บางคนเชื่อว่ามันต้องใช้เวลาเพื่อค้นหา Passion

งานวิจัยทำให้รู้ว่า Passion ไม่ได้เกิดขึ้นก่อน แต่มันเกิดขึ้นหลังจากที่คนเริ่มทำงานจนเกิดความเชี่ยวชาญ

ไม่ว่าจะมี Passion หรือไม่ เราก็สามารถออกแบบชีวิตได้ เริ่มต้นจากตอนนี้ เริ่มจากสิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เราเชื่อ และสิ่งที่เราทำ ค่อยๆ เปลี่ยน แล้วดูว่าเราชอบมันหรือเปล่า

Passion ไม่ควรเป็นจุดเริ่มต้นให้เราลงมือทำ แต่ควรเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการลงมือทำ

เริ่มต้นจากตอนนี้

ถ้าเราต้องการหาเดินทางไปยังจุดหมาย ก่อนที่ Google Maps จะนำทางเราได้ สิ่งที่เราต้องรู้ก่อนคือ สถานที่ปัจจุบัน เช่นเดียวกันกับตอนที่เราจะออกแบบชีวิต สิ่งแรกที่เราต้องรู้คือ สถานการณ์ปัจจุบัน ในด้านสุขภาพ การทำงาน การเล่น ความรัก

สุขภาพรวมไปถึงสุขภาพกายและสุขภาพจิต การทำงานรวมถึงงานที่ได้รับสิ่งตอบแทนหรืองานอาสาสมัครทำเพื่อสังคม การเล่นเพื่อความสนุก ความรักความสัมพันธ์กับครอบครัว เพื่อนๆ หมาแมว

เป้าหมายคือการหาจุดสมดุลในแต่ละด้าน ปรับเปลี่ยน เพิ่มหรือลดแต่ละด้านลงให้เหมาะสำหรับตัวเอง สำหรับบางคนอาจจะเน้นไปที่ด้านทำงาน บางคนอาจจะเน้นไปที่การได้เล่นสนุก หรือบางคนอาจจะเน้นไปที่การมีสุขภาพดี

เปลี่ยนมุมมองใหม่

  • ความเชื่อเดิม I should already know where I’m going.
  • มุมมองใหม่ You can’t know where you are going until you know where you are.

คิดแบบคนเริ่มต้น

ก่อนที่เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ ที่มันจะทำให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัวหรือการทำงาน เช่น การตัดสินใจย้ายบริษัท หรือการเปลี่ยนงาน มีสิ่งจำเป็นที่เราต้องรู้ก่อน

การถามคำถามในแบบคนที่ไม่รู้อะไรเลย ถามแบบคนที่เพิ่งเริ่มต้น เป็นการเปลี่ยนมุมมองของเรา เพื่อให้เราได้เรียนรู้ได้มากที่สุด ทำให้เราไม่คิดไปเอง ไม่ด่วนสรุป แต่ให้เราสงสัยและถามคำถามที่จำเป็นต้องรู้

สมมติว่าเราสนใจเกี่ยวกับจิตวิทยา ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยา ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกเรียนจิตวิทยาในระดับมหาวิทยาลัย เราต้องรู้จักสงสัยและถามให้รู้ ว่างานที่เกี่ยวข้องกับจิตวิทยามีอะไรบ้าง มันมีอาชีพอะไรบ้างที่ให้เราเลือก ลักษณะงานเป็นยังไง ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับใคร ต้องทำงานที่ไหน

ความสงสัยและการถาม มันจะทำให้เรารู้ล่วงหน้า รู้ว่าทางที่เรากำลังจะเดินไปมันใช่แบบที่เราชอบจริงๆ หรือเปล่า การถามคำถามจะทำให้ลดความเสี่ยงที่เราจะเสียใจเลือกเส้นทางผิด

Gravity problems

Gravity problems คือปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง แต่เป็นอุสรรค เป็นสถานการณ์ เป็นความจริงที่เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้

ในการออกแบบชีวิต ปัญหาที่เป็นปัญหาจริงๆ เราจะต้องหาหนทางแก้ไขมันได้ แต่ Gravity problems คือปัญหาที่ไม่มีทางแก้ หรือปัญหาที่เราไม่ควรเสียเวลา ไม่คุ้มที่จะเสียทรัพยากรหาทางแก้ไขมัน

บริษัทใหญ่ที่บริหารงานแบบครอบครัวส่งต่อกันมาหลายรุ่น ไม่เปิดโอกาสให้คนนอกเข้ามาเป็นผู้บริหาร เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ สิ่งที่เราทำได้คือยอมรับ การยอมรับจะทำให้เราเป็นอิสระและหาทางออกอื่น

สิ่งสำคัญคืออย่ายอมติดกับดัก อย่ายอมติดอยู่ในที่ที่เราไม่สามารถประสบความสำเร็จ ถ้าเราเปิดใจมากพอและยอมรับความเป็นจริง เราก็จะเปลี่ยนมุมมองใหม่ได้ และมองเห็นสิ่งที่สำคัญกับเราจริงๆ มันอาจจะไม่ใช่ตำแหน่งผู้บริหาร แต่อาจจะเป็นตำแหน่งหน้าที่อื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตหรือเพิ่มยอดขายให้บริษัท

The only response to a gravity problem is acceptance.

ใช้เข็มทิศนำทาง

เมื่อเราต้องเดินทางไปยังอนาคตที่ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า สิ่งที่เราต้องมีคือเข็มทิศ เพื่อบอกว่าระหว่างที่เราเดินไปนั้น เราอาจไม่รู้ว่ากำลังเดินไปถูกทางหรือไม่ แต่เข็มทิศจะทำให้รู้ว่าเรากำลังไปยังเป้าหมาย

การออกแบบชีวิตเกี่ยวข้องกับความสามารถในการเชื่อมต่อจุดสำคัญทั้ง 3

  • สิ่งที่เราเป็น
  • สิ่งที่เราเชื่อ
  • สิ่งที่เราทำ

งานที่ดีมีส่วนช่วยให้เกิดความพึงพอใจ งานที่ดีสำหรับคนส่วนใหญ่คืองานที่ทำเงินได้ดี และเราไม่ต้องทำงานล่วงเวลาบ่อยๆ ไม่ต้องทำงานในเวลาที่เราควรได้พักผ่อน นอกจากนั้นยังเป็นงานที่มีส่วนช่วยสังคม งานที่มีคุณค่าและความหมาย

การที่เราเชื่อมจุดทั้ง 3 ได้ จะทำให้เรารู้ตัวเองมากขึ้น เราพอใจในสิ่งที่เราเป็นหรือเปล่า เราได้ทำงานที่มันสอดคล้องกับสิ่งที่เราเชื่อหรือเปล่า มันจะทำให้เรารู้ว่าเราขาดอะไรไป ทำให้เรารู้ว่าตรงไหนที่ต้องเปลี่ยน

เปลี่ยนมุมมองใหม่

  • ความเชื่อเดิม I should know where I’m going.
  • มุมมองใหม่ I won’t always know where I’m going but I can always know whether I’m going in the right direction.

ค้นหาสิ่งที่เราสนใจ

ค้นหาว่าอะไรที่ทำให้เราสนใจ กิจกรรมอะไรที่ทำให้เราอยากทำ งานบางอย่างทำให้เรารู้สึกแย่ลง งานบางอย่างทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ช่วยเติมพลังให้เรา สุดท้ายจะทำให้เรารู้ว่าอะไรที่ทำให้เราพึงพอใจ

จดบันทึกว่าเราตั้งใจทำกิจกรรมแต่ละอย่างมากแค่ไหน เราใส่ใจในงานมากแค่ไหน เราทำเต็มที่มากแค่ไหน มันจะทำให้เราเลือกได้ว่าจะทำอะไรต่อไป

จดบันทึกประสบการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องแย่ มันจะช่วยให้เรารู้ว่าเราสนใจเรื่องอะไร การจดบันทึกจะช่วยให้เรารู้ว่ากิจกรรมอะไรบ้างที่ทำให้เราพอใจ งานอะไรที่เราชอบทำ สถานที่ที่เราชอบไป คนที่เราชอบอยู่ด้วย

ออกแบบหลายๆ ชีวิต

การออกแบบชีวิตคือการสร้างทางเลือก บางคนมีความสนใจอยากทำหลายๆ อย่าง เช่น อยากสอนหนังสือ อยากเป็นนักกฎหมาย อยากทำงานเพื่อสังคม แต่ต้องเลือกเอาสักอย่างและจะรู้สึกเสียดายที่ต้องทิ้งบางอย่างไป

เราแต่ละคนมีหลายชีวิตที่เป็นไปได้อยู่ในคนๆ เดียว เราออกแบบได้หลายชีวิต วิธีที่จะช่วยให้เราคิดไอเดียออกคือการนึกถึงช่วงเวลาในอีก 5 ปี ข้างหน้า ลองจินตนาการว่า

  • ถ้างานที่เราทำอยู่ในตอนนี้ราบรื่นดี มีอะไรอีกที่เราอยากจะทำ
  • ถ้างานที่เราทำอยู่ตอนนี้มันหายไป ถูกทดแทนด้วย AI แล้วเราจะเปลี่ยนไปทำอะไร
  • ถ้างานหรือเงินหรือภาพลักษ์ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป แล้วเราอยากจะทำอะไร

การออกแบบชีวิตคือการเลือกความสุข ความสุขในชีวิตไม่ได้เกิดจากการเลือกเส้นทางที่ถูกต้อง แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะเลือกให้ดี

ขั้นตอนการเลือก

  1. Collect สะสมและสร้างทางเลือก
  2. Reduce ตัดตัวเลือกออกไป
  3. Choose เลือกอย่างมั่นใจ
  4. Move on ปล่อยวางและเดินหน้าต่อไป

ขั้นตอนแรกคือการค้นหา การสะสม และการสร้างทางเลือก จากนั้นจึงตัดตัวเลือกออกไป การมีทางเลือกมากเกินไปจะทำให้เราไม่สามารถตัดสินใจได้ ตัดตัวเลือกที่ใช้ไม่ได้ออกไป แล้วเลือกอย่างมั่นใจ ภูมิใจในสิ่งที่เราเลือก ถึงแม้สุดท้ายจะพบว่ามันไม่ได้ผล ก็ต้องรู้จักปล่อยวางและก้าวต่อไป

เปลี่ยนมุมมองใหม่

  • ความเชื่อเดิม To be happy, I have to make the right choice.
  • มุมมองใหม่ There is no right choice, only good choosing.

ภูมิต้านทานความผิดพลาด

ทุกคนต่างก็เคยทำผิดพลาดและล้มเหลวมาบ้าง แต่สิ่งที่ผิดพลาดที่สุดคือการไม่ยอมรับว่าเราเคยทำพลาด จดบันทึกสิ่งที่เราทำพลาดแล้ววิเคราะห์เรียนรู้และไม่ทำพลาดซ้ำอีกครั้ง

เราอาจจะผิดพลาดล้มเหลวในวันนี้ แต่อย่ามองว่าตัวเราเป็นคนล้มเหลว เราอาจจะประสบความสำเร็จในวันนี้ แต่อย่าชะล่าใจคิดว่าตัวเองเป็นคนประสบความสำเร็จ

ไม่ว่าความสำเร็จหรือความล้มเหลว ต่างก็ขัดขวางไม่ให้เราก้าวต่อไป ความสำเร็จทำให้เราหยุดอยู่กับที่ ทำให้เกิดความกลัว ไม่กล้าที่จะทำฝันที่ใหญ่กว่า เพราะความกลัวว่าจะทำไม่สำเร็จ

คนเราชอบที่จะเป็นฝ่ายถูกต้อง ดังนั้นเมื่อไหร่ที่ผิดพลาดก็จะหาคนผิด โทษความคิด โทษคนที่ตัดสินใจ ที่ทำให้เกิดความผิดพลาด แต่การโทษปัจจัยภายนอกไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ตัดสินใจและก้าวไปข้างหน้าดีกว่า

ความผิดพลาดทำให้เราไม่กล้าตัดสินใจ แต่ถ้าไม่ตัดสินใจเราก็ก้าวไปข้างหน้าไม่ได้ ดังนั้น เราจึงควรยอมรับความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ตัดสินใจและฝึกตนเองให้ชิน ให้พร้อมรับมือความผิดพลาดจะดีกว่า

สิ่งสำคัญที่ได้จากหนังสือ

เราสามารถออกแบบชีวิตเราเองได้ โดยการรู้ตัวเอง รู้สถานการณ์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นในด้าน สุขภาพ การทำงาน เรื่องส่วนตัว การเล่น ความรักและความสัมพันธ์ จากนั้นปรับลดหรือเพิ่มให้เหมาะสม

รู้จักเปลี่ยนความคิดและมุมมอง แทนความเชื่อเดิมด้วยความคิดใหม่ๆ ที่เหมาะสมมากกว่า เช่น เริ่มต้นจากที่ที่เราอยู่ มันไม่เร็วเกินไป มันไม่สายเกินไป ที่จะออกแบบชีวิตของเราเอง

เชื่อมโยงจุดสำคัญ สิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เราเชื่อ และสิ่งที่เราทำ เพราะมันจะเป็นเข็มทิศนำทางเรา ช่วยให้เรารู้ตัวว่าต้องปรับเปลี่ยน ทำให้มั่นใจว่าเรากำลังมุ่งไปยังเป้าหมายที่ถูกต้อง

เอาความสงสัยในวัยเด็กกลับคืนมา เริ่มลงมือทำ ปรับเปลี่ยนมุมมอง รู้ว่ามันคือการเดินทาง รู้จักเข้าหาและขอความช่วยเหลือจากคนอื่น

หนังสือและวิดีโอที่เราแนะนำ

Designing Your Life: How to Build a Well-Lived, Joyful Life

Designing Your Life with Bill Burnett and Dave Evans

Like what you read? Please share it with your friends so we can get their thoughts!

Previous ArticleNext Article